ประวัติความเป็นมาของวัดคลองท่อม
วัดคลองท่อม เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๔ มีเนื้อที่ประมาณ ๒๗ ไร่ ๓ งาน ๖๗ ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์อีก ๑ แปลง เนื้อที่ ๕๔ ไร่ ๒ งาน ๑๓ ตารางวา
สภาพพื้นที่ตั้งวัดนั้นเดิมเป็นที่ราบลุ่มและมีน้ำขัง จึงมีการถมดินให้สูงขึ้น สภาพแวดล้อมของวัดนั้น เป็นทุ่งนา ป่าเบญจพรรณ และลำคลอง ในปัจจุบันถึงแม้ว่าวัดคลองท่อมจะตั้งอยู่ใจกลางอำเภอคลองท่อม แต่ก็ยังคงมีความร่มรื่น สงบเงียบ และมีแนวป่าไม้ เบญจพรรณนานาชนิดอยู่ทั่วบริเวณ
เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๕๑ พ่อท่านจันทร์ ร่วมกับข้าราชการ พ่อค้าและประชาชน ในการริเริ่มสร้างที่พำนักสงฆ์ขึ้น เพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้พักแรม เมื่อมีพระภิกษุเข้าไปอยู่ประจำ พ่อค้าประชาชนจึงได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญ ( โรงธรรม ) และกุฏิเพิ่มขึ้นแล้วเรียกขานที่พำนักสงฆ์คลองท่อม ว่า “ วัดคลองท่อม ” เรื่อยมา
พุทธศักราช ๒๔๙๘ ตรงกับเดือน ๗ พระสวาส กนฺตสํวโร ได้มาพำนักอยู่วัดคลองท่อม มีพระภิกษุ ๑ รูป มีศาลาการเปรียญเก่า ( โรงธรรมโบราณ ) และมีกุฏิ ๑ หลัง ได้แสดงพระธรรมเทศนา อบรมสั่งสอนประชาชนจนมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและได้เข้ามาขอบรรพชาอุปสมบท เป็นพระภิกษุ พรรษาแรกมีพระภิกษุจำนวน ๒๔ รูป เมื่อมีพระภิกษุมากจึงชักชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนร่วมกันสร้างเสนาสนะสงฆ์ และร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญใหม่เพื่อให้พระภิกษุสามารถ บำเพ็ญกิจวัตรและอยู่จำพรรษาในครั้งนั้น
พุทธศักราช ๒๔๙๙ ได้ทำการขุดบ่อน้ำ เพื่อใช้ในกิจการพระภิกษุสงฆ์ ( ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว ) และก่อสร้างเสนาสนะสงฆ์ เพื่อให้พระภิกษุจำพรรษาได้ ก่อสร้างโรงครัวขึ้น และดำเนินการก่อสร้างเป็นลำดับ มาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันวัดคลองท่อมได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างเสนาสนะสงฆ์ การพัฒนาภูมิทัศน์ ให้ดูสวยงาม การบูรณปฏิสังขรณ์ฌาปนสถานให้ทันสมัยขึ้น เป็นต้น และจากการที่วัดคลองท่อมนั้นเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม ( พิพิธภัณฑสถานพระครูอาทรสังวรกิจ ) วัดคลองท่อมจึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นทั้งในและนอกประเทศ โดยในแต่ละวันนั้นมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ทุกวันมิได้ขาด อีกทั้งยังเป็นแหล่งความรู้ด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจึงมีนักเรียนนักศึกษาจากสถานศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้มาทัศนะศึกษา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งนี้เป็นประจำตลอดทั้งปี
อาณาเขตติดต่อ
ด้านทิศเหนือ ติดต่อ เหมืองน้ำสาธารณะ
ด้านทิศใต้ ติดต่อ ลำคลอง
ด้านทิศตะวันออก ติดต่อ แนวสายไฟฟ้าแรงสูง
ด้านทิศตะวันตก ติดต่อ ถนนเพชรเกษม
เกียรติยศ
พ.ศ. ๒๕๑๐ กรมการศาสนาได้ประกาศให้วัดคลองท่อม เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างระดับจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๓๕ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่งถึงวัดคลองท่อ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เสด็จยังพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ทรงทอดพระเนตรโบราณวัตถุ ทรงสนพระทัยศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของลูกปัดชนิดต่าง ๆ เป็นอย่างยิ่ง และทรงส่งเสริมให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์โบราณสถานควนลูกปัดเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ด้านประวัติศาสตร์ต่อไป
พ.ศ. ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่งทรงนำนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ฯ มาทัศนะศึกษาทางประวัติศาสตร์ โดยศึกษาตามถ้ำในเขตอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีการค้นพบวัตถุโบราณจำพวก หอกโบราณทำด้วยกระดูก หม้อ ๓ ขา กระดูกสัตว์ต่าง ๆและเสด็จทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ลูกปัดวัดคลองท่อม เวลา ๑๐.๐๐ น. ทรงจุดธูป เทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูอาทรสังวรกิจได้ถวายลูกปัด ๔ เส้น
เสนาสนะ
อุโบสถ ตั้งอยู่ใจกลางของวัด ดำเนินการก่อสร้าง โดยพระสวาส กนฺตสํวโร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๐๕ จึงแล้วเสร็จ ขนาด ๘ x ๑๒ เมตร เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน เครื่องบนเป็นไม้เนื้อแข็งมุงกระเบื้องและได้ผูกพัทธสีมา เมื่อ วันที่ ๑ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ในปัจจุบันพระอุโบสถหลังดังกล่าวได้ ถูกรื้อถอนแล้ว เมื่อ วันที่ ๙ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ดำเนินการโดย พระปลัดเมธิชัย ฉนฺทธมฺโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เพื่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ทดแทนเนื่องจากพระอุโบสถหลัง เก่านั้น มีความชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาเกินกว่า ที่จะบูรณะซ่อมแซมได้โดยพระอุโบสถหลังใหม่นั้น ได้เริ่มทำการก่อสร้างตั้งแต่ วันที่ ๑ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์กว้าง ๔๐ x ๘๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
อาคารพิพิธภัณฑ์ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นตึก ๒ ชั้น กว้าง ๒๐ x ๖๐ เมตร เป็นคอนกรีตเสริม เหล็กใช้เก็บโบราณวัตถุและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก็บได้จากบริเวณควนลูกปัด และบริเวณอื่นๆในจังหวัดกระบี่
มณฑป เป็นที่ประดิษฐาน พระสำเภาก๋ง ( จู้เฉ่ง ) หลวงปู่ทวดและหลวงพ่อท่านคล้าย
ฌาปณสถาน สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ประกอบด้วยเมรุ ๑ เตาเผา ใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ภายหลังได้บูรณะเตาเผา โดยการเปลี่ยนจากการใช้ไม้ฟืนเป็นเตาเผาแบบใช้น้ำมันเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๒
ศาลาอเนกประสงค์ อาคารคอนกรีต กว้าง ๑๐ x ๘๐ เมตร ( แบ่งเป็น ศาลา ๓ โรงครัว ๑ ห้องน้ำ ๑๐ ห้อง )
กุฏิ กุฏิไม้มีใต้ถุนจำนวน ๓ หลัง กุฏิแบบก่ออิฐถือปูนจำนวน ๗ หลัง กุฏิรับรอง พระอาคันตุกะจำนวน ๑ หลัง
หอระฆัง สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
ปูชนียวัตถุ
๑. พระสำเภาก๋งหรือหลวงพ่อจู้เฉ่ง เป็นพระพุทธรูปทำด้วยไม้ บางท่านว่าเป็นไม้กฤษณา บางท่านว่าเป็นไม้โสน สูง ๑๓๐ ซม. เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่กับวัด ไม่มีประวัติเป็นมาที่แน่ชัด เป็นศิลปะญี่ปุ่น ว่ากันว่ามีชาวเรือพบลอยน้ำอยู่กลางทะเล จึงได้อันเชิญขึ้นประดิษฐานที่เสากระโดงเรือภายหลังได้นำมาถวายวัดคลองท่อม
๒. พระเงินสูง สูงประมาณ ๑๔๐ ซม.เนื้อไม้ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ไม่ทราบประวัติความเป็นมา
๓. รูปเหมือนสมเด็จพระรามมุนี หรือ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้
๔. รูปเหมือนหลวงพ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน
๕. พระสีวลี
๖. รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พ๎รห๎มรํสี ) วัดระฆังโฆษิตาราม
รายนามเจ้าอาวาสวัดคลองท่อม
ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน
๑. พระแก้ว พ.ศ. ๒๔๕๑ – ๒๔๕๕
๒. พระจันทร์ พ.ศ. ๒๔๕๕ – ๒๔๕๘
๓. พระหนู พ.ศ. ๒๔๕๘ – ๒๔๖๒
๔. พระเนื่อง พ.ศ. ๒๔๖๒ – ๒๔๗๒
๕. พระเลื่อน พ.ศ. ๒๔๗๒ – ๒๔๘๒
๖. พระพุ่ม พ.ศ. ๒๔๘๒ – ๒๔๘๗
๗. พระทิน อตฺตรกฺโข พ.ศ. ๒๔๙๖ – ๒๔๙๙
๘. พระครูอาทรสังวรกิจ ( สวาส กนฺตสํวโร ) พ.ศ. ๒๔๙๙ – ๒๕๕๐
๙. พระปลัดเมธิชัย ฉนฺทธมโม พ.ศ. ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น