วัดคลองท่อม

จากที่พำนักสงฆ์คลองท่อมจนเป็นวัดคลองท่อม ปัจจุบันวัดคลองท่อมมีอายุ ๑๐๕ ปี
วัดคลองท่อม ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ถนนเพชรเกษม ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 40 กม. เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระครูอาทรสังวรกิจ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณของอำเภอคลองท่อม อาทิ ลูกปัด เครื่องมือโบราณ เป็นต้น เปิดบริการเวลา 08.30 - 12.00 และ 13.00 - 16.30 ปิดทุกวันพุธ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม

๑.  ตำแหน่ง    
ชื่อ  พระปลัดเมธิชัย   ฉายา  ฉนฺทธมฺโม  อายุ  ๓๕  ปี  พรรษา  ๑๐  สังกัดนิกาย มหานิกาย
                                วิทยฐานะ  นักธรรมชั้นเอก , ปบ.ส
                                สังกัดวัดคลองท่อม  ตำบลคลองท่อมใต้  อำเภอคลองท่อม  จังหวัดกระบี่
                                ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง       เจ้าคณะตำบลคลองท่อมใต้,   เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม  
                                                                                อำเภอคลองท่อม  จังหวัดกระบี่
๒.  สถานะเดิม           
                                ชื่อ  เมธิชัย  นามสกุล  ราชรักษ์  เกิด    ค่ำ  เดือน    ปี  มะเส็ง 
                                ตรงกับวัน  อาทิตย์  ที่    เดือน  พฤษภาคม  พ.ศ.  ๒๕๒๐  บ้านเลขที่  ๓/๒
                                หมู่ที่    ตำบล  คลองท่อมใต้  อำเภอ  คลองท่อม  จังหวัด  กระบี่
๓.  อุปสมบท  
                                ตรงกับวันที่    กรกฎาคม พ.ศ.  ๒๕๔๖  วัดหรังแคบ  ตำบล  ดอนทราย 
                                อำเภอ  ควนขนุน  จังหวัด  พัทลุง
                                พระอุปัชฌาย์  พระครูสุภัทรธรรมาทร  วัดเขาโพรกเพลง  จังหวัด  พัทลุง
๔.  วิทยฐานะ 
                                ( ๑ )      พ.ศ.  ๒๕๓๒     สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 
                                ( ๒ )     พ.ศ.  ๒๕๒๘     สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก  สำนักเรียนคณะจังหวัดกระบี่
                                ( ๓ )      การศึกษาพิเศษ   
                                                พ.ศ.  ๒๕๕๒     ผ่านการอบรม “  การประชุมฝึกอบรมพระนักเทศน์ 
                                                                                รุ่นที่ ๒  ของคณะสงฆ์หนใต้และพระสงฆ์ประเทศมาเลเซีย ” 
                                                                                ณ วัดพัฒนาราม  ตำบลตลาด อำเภอ เมือง จังหวัด สุราษฎร์ธานี
๕.  งานปกครอง         
                                พ.ศ.  ๒๕๕๒ – ปัจจุบัน                  เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองท่อม  ตำบล  คลองท่อมใต้
                                                                                                อำเภอ  คลองท่อม  จังหวัด  กระบี่
                                พ.ศ.  ๒๕๕๓ – ปัจจุบัน                   เป็นเจ้าคณะตำบลคลองท่อมใต้  ตำบล  คลองท่อมใต้
                                                                                                อำเภอ  คลองท่อม  จังหวัด  กระบี่
๖.  งานการศึกษา
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               -  เป็นคณะกรรมการสอบธรรมศึกษาชั้นตรี,โท,เอก
                                                                                                   โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย
                                                                                                -  เป็นคณะกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง
                                                                                                   คณะสงฆ์  อำเภอ  คลองท่อม  จังหวัด  กระบี่
                                                                                                -  เป็นคณะกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง
                                                                                                   คณะสงฆ์จังหวัดกระบี่
๗.  งานเผยแผ่
( ๑ )       พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               -  จัดพระภิกษุ  อบรมคุณธรรม จริยธรรมแก่เยาวชน,   
                                                                                 ข้าราชการทหาร ในโอกาสต่าง ๆ
                                พ.ศ.       ๒๕๕๓ – ปัจจุบัน              เป็นรองหัวหน้าพระธรรมทูตประจำอำเภอคลองท่อม
                                                                                                จังหวัดกระบี่
                                พ.ศ.       ๒๕๕๓                                 จัดบวชชีพราหมณ์อบรมศีลจาริณี ๕๐ คน
                                พ.ศ.       ๒๕๕๕                                 -  ดำเนินการในการทูลขอพระราชทานพระบรม - 
                                                                                                   สารีริกธาตุจากสมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช-
                                                                                                   สกลมหาสังฆปรินายก
                                                                                                -  เรียบเรียงและจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์สำหรับพระภิกษุ
                                                                                                    พระภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกาทั่วไปเพื่อแจกจ่าย 
                                                                                                    ให้วัดต่าง ๆ และพุทธศาสนิกชน
                ( ๒ )      กิจกรรมเกี่ยวกับงานเผยแผ่
-                   วัดคลองท่อมมีการจัดให้มีโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน  โดยจัดในเดือนเมษายน 
               ระยะเวลา  ๓๐  วัน  เป็นประจำทุกปี
-                   มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจากสถาบันการศึกษาในอำเภอคลองท่อมเช่น
              โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย มาเข้าค่ายอบรมศีลจาริณี
-                   มีการทำวัตรสวดมนต์ร่วมกับพุทธศาสนิกชนและแสดงธรรมประจำวันธรรมสวนะตลอดปี 
              โดยมีคนมาร่วมทำวัตรสวดมนต์และฟังธรรม  ครั้งละประมาณ ๖๐ – ๑๐๐  คน
-                   โครงการอบรมพระนวกะประจำปี
-                   โครงการอบรมนักธรรมชั้นตรีประจำปี
-                   มีการจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาประจำปีเช่นวันวิสาขบูชา เป็นต้น
                                                                                       
โดยแต่ละครั้งจะมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมพิธีกรรมทางศาสนาประมาณ  ๓๐๐ – ๔๐๐ คน     
๘.  งานสาธารณูปการ
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               เป็นกรรมการในพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม
            งานก่อสร้าง  บูรณะ  ปฏิสังขรณ์ ถาวรวัตถุ
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑                                  ปรับปรุงซ่อมแซมศาลาการเปรียญ ห้องน้ำ ห้องสุขา
                                                                                               ค่าใช้จ่ายประมาณ  ๘๐๐,๐๐๐  บาท
                                พ.ศ.       ๒๕๕๒                                 บูรณะฌาปนสถานโดยเปลี่ยนเตาเผาจากเดิมที่ใช้
ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง มาเป็นเตาเผาแบบไร้มลพิษ
รวมค่าใช้จ่ายประมาณ ๑,๗๐๐,๐๐๐  บาท
                                พ.ศ.       ๒๕๕๓                                 สร้างกุฏิแบบก่ออิฐถือปูนขนาด ๔ x  เมตร  ๑ หลัง 
                                                                                                รวมค่าก่อสร้างประมาณ  ๓๐๐,๐๐๐ บาท
                                                                                                สร้าง รูปหล่อทองเหลือง “ พระสีวลี ” สูงประมาณ ๒ เมตร
                                พ.ศ.       ๒๕๕๔                                 สร้างกุฏิแบบก่ออิฐถือปูนขนาด ๕ x  เมตร  ๑ หลัง
                                                                                                และสร้างกุฏิ ( กุฏิเจ้าอาวาส ) ขนาด ๔ x ๑๐ เมตร 
                                                                                                ๑ หลัง   รวมค่าก่อสร้างประมาณ  ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท
                                พ.ศ.       ๒๕๕๕                                 สร้างกุฏิรับรองพระอาคันตุกะมีลักษณะแบบก่ออิฐถือปูน 
                                                                                               ยกพื้นสูง ขนาด ๔ x  เมตร  ๑ หลัง
                                                                                               รวมค่าก่อสร้างประมาณ  ๓๐๐,๐๐๐ บาท
                                                                                                สร้างพระอุโบสถขนาด  ๗.๕ x ๒๒ เมตร โดยได้เริ่ม
                                                                                                ดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม  ๒๕๕๕
                                                                                                กำหนดให้แล้วเสร็จในปี ๒๕๕๘
                                                                                                ประมาณการค่าก่อสร้างราวเกือบ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐  บาท
                                                                                                ปรับปรุงซ่อมแซมพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม
                                                                                                ใช้งบประมาณ ราว ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาทเศษ

๙.  งานสาธารณะประโยชน์
                        พ.ศ.       ๒๕๔๗                                 ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดกระบี่และพุทธศาสนิกชน
                                                                                                ดำเนินการจัดหาปัจจัยและสิ่งอุปโภค บริโภค ช่วยเหลือ
                                                                                                ผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ คลื่นยักษ์สึนามิ
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               บริจาคนม ให้แก่สถานศึกษาในชนบทและยากจน
                                พ.ศ.       ๒๕๕๔                                 เป็นประธานดำเนินการจัดหาสิ่งอุปโภค บริโภค
                                                                                               เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในจังหวัดนนทบุรี โดย
                                                                                               ร่วมกับพุทธบริษัทวัดคลองท่อม
                                พ.ศ.       ๒๕๕๕                                 ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดกระบี่ในจัดมอบสิ่งของข้าวสาร
                                                                                               อาหารแห้งที่ได้จากการบิณฑบาตในวันปีใหม่ช่วยเหลือ
                                                                                                ผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลาง
๑๐.  งานศึกษาสงเคราะห์
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ๒๕๕๒             มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่มาบรรพชาสามเณร
                                                                                             ภาคฤดูร้อน ทุนละ ๕๐๐ บาท ปีละ  ๓๐ ทุน
                                พ.ศ.       ๒๕๕๓ – ๒๕๕๔             มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา
                                                                                              โรงเรียนอนุบาลคลองท่อม ๒ ทุน ทุนละ ๑,๐๐๐ บาท
                                พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               เป็นคณะกรรมการโรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์
                                                                                              เป็นคณะกรรมการโรงเรียนอนุบาลคลองท่อม
                                                                                              เป็นคณะกรรมการโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้      
๑๑.  งานพิเศษ
                        พ.ศ.       ๒๕๕๑ – ปัจจุบัน               ได้รับอาราธนาจากหน่วยฝึกทหารใหม่ ร.๑๕ พัน.๑
                                                                                                ให้บรรยายธรรมแก่ทหารใหม่ที่ผ่านการฝึก ก่อน
                                                                                                 ปฏิบัติหน้าที่จริง
๑๒. สมณศักดิ์
                                พ.ศ.  ๒๕๕๑                                      ได้รับแต่งตั้งเป็น  พระปลัด  ฐานานุกรมของ
                                                                                                พระศรีรัตนสุธี  พระราชาคณะชั้นสามัญ
                                                                                                วัดแก้วโกรวาราม  อำเภอ  เมือง  จังหวัด  กระบี่

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ขั้นตอนและบทที่ต้องท่องจำใช้ในพิธีบวชแบบ(เอสาหัง)

คำขอบรรพชา-อุปสมบท
วัดคลองท่อม
                กุลบุตรผู้ที่ศัทราและเลื่อมใส เกิดฉันทะประสงค์จะขอบรรพชาและอุปสมบท พึงทำตนให้พ้นจากอุปสรรคคือข้อติดขัดเป็นต้นว่า มีโรคต้องห้าม มีหนี้สิน มีคดีเกี่ยวในศาล ไม่ได้รับอนุญาตแห่งบิดา มารดา ไม่ได้รับอนุญาตแห่งมูลนาย ไม่ได้รับอนุญาตแห่งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เป็นบัณเฑาะว์ (กระเทย) และ พึงทำตนให้พ้นจากปลิโพธ คือข้อกังวลเป็นต้นว่า ครอบครัว การงาน บ้านเรือนและทรัพย์สมบัติ เตรียมตัวเสร็จแล้วถึงวันกำหนดพึงไปสู่อาราม เข้าในอุโบสถรับผ้าไตรอุ้มเข้าไปในสังฆสันนิบาต วางผ้าไตรไว้ข้างตัวด้านซ้าย รับเครื่องสักการะถวายอุปัชฌายะแล้วกราบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง นั่งคุกเข่าอุ้มผ้าไตรประณมมือเปล่งวาจาถึงสรณะและขอบรรพชา-อุปสมบทด้วยภาษามคธ ดังนี้
             เอสาหัง  ภันเต  ,  สุจิระปรินิพพุตัมปิ  ,  ตัง  ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ  , ธัมมัญจะ  ภิกขุสังฆัญจะ  ละเภยยาหัง  ภันเต  ,  ตัสสะภะคะวะโต  ,  ธัมมะวินะเย        ปัพพัชชัง  , ละเภยยัง  อุปะสัมปะทัง
            ทุติยัมปาหัง  ภันเต , สุจิระปรินิพพุตัมปิ  , ตัง  ภะคะวันตัง  สะระณัง   คัจฉามิ  , ธัมมัญจะ  ภิกขุสังฆัญจะ  ละเภยยาหัง ภันเต  ตัสสะภะคะวะโต  ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง  ,  ละเภยยัง   อุปะสัมปะทัง
            ตะติยัมปาหัง  ภันเต สุจิระปรินิพพุตัมปิ ตัง  ภะคะวันตัง  สะระณัง  คัจฉามิ,  ธัมมัญจะ  ภิกขุสังฆัญจะ ละเภยยาหัง  ภันเต ตัสสะภะคะวะโต  ,  ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง  ,  ละเภยยัง  อุปะสัมปะทัง
            อะหัง  ภันเต  ,  ปัพพัชชัง  ยาจามิ  อิมานิ  กาสายานิ  วัตถานิ  คะเหตะวา            ,  ปัพพาเชถะ  มัง  ภันเต  อะนุกัมปัง  อุปาทะยะ
            ทุติยัมปิ  อะหัง  ภันเต , ปัพพัชชัง  ยาจามิ  อิมานิ  กาสายานิ  วัตถานิ คะเหตะวา  ,  ปัพพาเชถะ  มัง  ภันเต  ,  อะนุกัมปัง อุปาทะยะ
             ตะติยัมปิ  อะหัง  ภันเต  ,  ปัพพัชชัง  ยาจามิ  อิมานิ  กาสายานิ  วัตถานิ               คะเหตะวา  , ปัพพาเชถะ  มัง  ภันเต  ,  อะนุกัมปัง  อุปาทะยะ
(ถ้าอุปสมบทหมู่ให้เปลี่ยน มิ เป็น มะ) 
                ในลำดับนี้พระอุปัชฌายะรับผ้าไตรจากปัพพัชชาเบกขะ คือผู้มุ่งบวชบรรพชามาวางไว้ตรงหน้าแล้วพึงสอนถึงพระรัตนตรัยอันเป็นหลังสำคัญแห่งพระธรรมวินัย น้อมใจด้วยศรัทธาเลื่อมใสถือเป็นเป็นสรณะและบอกตจปัญจกัมมัฏฐานให้ไว้คำนึงเป็นจิตตภาวนาอธิบายให้รู้ความ โดยอนุโลมและปฏิโลมตามลำดับต่อไปนี้
                        เกสา  โลมา  ,  นะขา  ,  ทันตา  ,  ตะโจ
                        ตะโจ  ,  ทันตา  ,  นะขา  โลมา  ,  เกสา
ครั้งสอนแล้ว พระอุปัชฌานะพึงชักอังสะออกจากไตรห่มให้เป็นปัพพัชชาเบกขะแล้ว ส่งออกไปครองผ้าไตรจีวร เสร็จแล้ว พึงเข้าไปหาอุปัชฌายะ กราบ ๓ หน นั่งคุกเข่าประณมมือ เปล่งวาจาขอสรณะและศีลดังนี้
                                        อะหัง   ภันเต   สะระณะสีลัง  ยาจามิ
                        ทุติยัมปิ   อะหัง   ภันเต   สะระณะสีลัง  ยาจามิ
                        ตะติยัมปิ อะหัง   ภันเต   สะระณะสีลัง  ยาจามิ
(ถ้าอุปสมบทหมู่ให้เปลี่ยน มิ เป็น มะ)
                พระอาจารย์กล่าวคำนมัสการนำ ให้ปัพพัชชาเบกขะว่าตามดังต่อไปนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า จบ)
จากนั้นพระอาจารย์พึงสั่งด้วยคำว่า "เอวัง วะเทหิ" หรือ "ยะมะหัง วะทามิ ตังวะเทมิ" คำใดคำหนึ่ง(อย่าว่าควบกัน) พึงรับว่า "อามะ ภันเต" ครั้งแล้วท่านกล่าวนำให้อธิษฐานใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะแล้ว พึงนำให้เปล่งวาจาว่า สรณคมน์ ตามไปทีละพากย์ ดังนี้
                    พุทธัง      สะระณัง        คัจฉามิ         
                    ธัมมัง      สะระณัง        คัจฉามิ
                    สังฆัง      สะระณัง        คัจฉามิ            
ทุติยัมปิ        พุทธัง      สะระณัง          คัจฉามิ 
ทุติยัมปิ        ธัมมัง      สะระณัง          คัจฉามิ 
ทุติยัมปิ        สังฆัง      สะระณัง          คัจฉามิ
ตะติยัมปิ      พุทธัง      สะระณัง          คัจฉามิ     
ตะติยัมปิ      ธัมมัง      สะระณัง          คัจฉามิ    
ตะติยัมปิ      สังฆัง      สะระณัง          คัจฉามิ
เมื่อจบสรณคมน์แล้วพระอาจารย์พึงบอกว่า "สะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง" พึงรับว่า "อามะ ภันเต" แต่นั้นพระอาจารย์พึงบอกให้รู้ว่า บรรพชาเป็นสามเณรสำเร็จด้วยสรณคมน์เพียงเท่านี้ สามเณรนั้นมีสิกขาบทอันพึงต้องศึกษา ๑๐  ประการ แล้วกล่าวนำให้สามเณรว่าตามทีละบทดังนี้
                        ปาณาติปาตา เวรมณี
                        อะทินนาทานา เวรมณี
                        อะพรหมะจะริยา เวรมณี  (อ่านว่า อะพรัม)
                        มุสาวาทา เวรมณี
                        สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวรมณี
                        วิกาละโภชะนา เวรมณี
                        นัจจะ คีตะ วาทิตะ วิสูกะ ทัสสะนา เวรมณี
                        มาลา คันธะ วิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะนะ วิภูสะ นัฏฐานา เวรมณี
                        อุจาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวรมณี
                        ชาตะ รูปะ ระชะตะ ปะฏิคคะหะนา เวรมณี
            อิมานิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ   ( ว่า หน ) กล่าวเสร็จแล้วกราบ หน
สามเณรใหม่อุ้มบาตรเข้าไปหาพระอุปัชฌายะในสังฆสันนิบาต วางบาตรไว้ข้างตัวด้านซ้ายกราบ หนคุกเข่าประนมมือ
                                        อะหัง  ภันเต  นิสสะยัง  ยาจามิ
                                   ทุติยัมปิ   อะหัง  ภันเต  นิสสะยัง  ยาจามิ                     
                                   ตะติยัมปิ อะหัง  ภันเต  นิสสะยัง  ยาจามิ
                                              อุปัชฌาโย โน ภันเต โหหิ ( ว่า หน )
พระอุปัชฌาพึงกล่าวบทรับว่า "โอปายิกัง" หรือ "ปฏิรูปัง" หรือ "ปาสาทิเกนะ สัมปาเทหิ" บทใดบทหนึ่ง ครั้ง เว้นระยะให้ สามเณรตอบรับว่า "สาธุ ภันเต" ทุกบทไป จากนั้นสามเณรพึงกล่าวรับเป็นธุระให้ท่านสืบไปดังนี้
อัชชะตัคเทคานิ เถโร มัยหัง ภาโร, อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร ( ว่า  ๓ หน )เสร็จแล้วกราบ ที
พระอุปัชฌายะจะบอกถึงสรณะบริขาร ๔ อย่างที่ขาดไม่ได้ สามเณรผู้อุปสมบทก็พึงรับว่า"อามะ ภันเต" ๔ หนดังนี้
            อะยันเตปัตโต                      กล่าวรับว่า          ( อามะ ภันเต )
            อะยังสังฆาฏิง                     กล่าวรับว่า          ( อามะ ภันเต )
            อะยังอุตตะราสังโค               กล่าวรับว่า          ( อามะ ภันเต )
            อะยังอันตะระวาสะโก          กล่าวรับว่า          ( อามะ ภันเต )
  ในตอนนี้พระอาจารย์จะสวดกรรมวาจา ให้เอาบาตรคล้องตัวสะพายแล่งทางบ่าซ้ายให้ตัวบาตรอยู่ข้างหลังจากนั้นพระอุปัชฌายะสั่งให้ออกไปข้างนอกด้วยคำว่า "คัจฉะ อะมุมหิ โอภาเส ติฏฐาหิ" ให้ถอยหลังออกไปพอควรแล้วลุกขึ้นเดินไปอยู่ที่ที่กำหนดไว้ แล้วพระอาจาย์ท่านสมมุติเป็นผู้สอนซ้อมแล้วออกไปสวดถามอันตรายิกะธรรม ให้รับว่า "นัตถิ ภันเต" ๕ ครั้ง "อามะ ภันเต" ๘ ครั้ง ดังนี้
            กุฎฐัง                                                                                                  นัตถิ ภันเต
            คัณโฑ                                                                                                            นัตถิ ภันเต
            กิลาโส                                                                                               นัตถิ ภันเต
            โสโส                                                                                                 นัตถิ ภันเต
            อะปะมาโร                                                                                          นัตถิ ภันเต
            มนุสโสสิ                                                                                             อามะ ภันเต
            ปุริโสสิ                                                                                                อามะ ภันเต
            ภุชิโสสิ                                                                                                อามะ ภันเต
            อะนะโสสิ                                                                                            อามะ ภันเต
            นะสิ ราชะภะโฏ                                                                                    อามะ ภันเต
            อะนุญญาโตสิ มาตาปิตูหิ                                                                         อามะ ภันเต
            ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ                                                                         อามะ ภันเต
            ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง                                                                      อามะ ภันเต
            กินนาโมสิ                                                     อะหัง ภันเต (ฉายา ...................)นามะ
            โกนามะ เต อุปัชฌาโย        อุปัชฌาโย เม ภันเต (ฉายาพระอุปัฌาย์ .............) นามะ
                ซ้อมเสร็จแล้ว พระอาจารย์พึงกลับมาในสังฆนิบาต สวดกรรมวาจาขอเรียกอุปสัมปทาเบกขะเข้ามาสวดกรรมวาจาเรียบร้อยแล้วพระอาจารย์หันหน้าออกไปทางอุปสัมปทาเปกขะเรียกมาด้วยคำว่า "อะคัจฉาหิ"ในลำดับนี้อุปสัมปทาเบกจะเข้ามาในสงฆ์สันนิบาตกราบ ๓ หน แล้วนั่งคุกเข่าประณมมือเปล่งคำขออุปสมบทดังนี้
                        สังฆัมภันเต  อุปะสัมปะทัง  ยาจามิ , อุลลุมปะตุ  มัง  ภันเต , สังโฆ อนุกัมปัง  อุปาทายะ
            ทุติยัมปิ  ภันเต , สังฆัง  อุปะสัมปะทัง  ยาจามิ , อุลลุมปะตุ  มัง  ภันเต ,  สังโฆ อนุกัมปัง  อุปาทายะ
            ตะติยัมปิ  ภันเต สังฆัง  อุปะสังปะทัง  ยาจามิ , อุลลุมปะตุ  มัง  ภันเต , สังโฆ อนุกัมปัง  อุปาทายะ
                ในลำดับต่อไปนี้พระอุปัชฌายะกล่างเผดียงสงฆ์และพระอาจารย์สวดสมมุติตนเพื่อซักถามอันตรายิกธรรมกับ อุปะสัมปะทาเบกขะและพึงระบุถามตั้งแต่ "กุฏฐัง" จนถึง "โก นามะ เต อุปัชฌาโย"พึงรับว่า "นัตถิ ภันเต" ๕ ครั้ง "อามะ ภันเต" ๘ ครั้ง ตอบฉายาของตนเองและอุปัชฌายะ จากนั้นฟังท่านสวดกรรมวาจาอุปสมบทจนจบ พอจบแล้ว เอาบาตรออกจากตัว กราบ ๓ หน นั่งพับเพียบประณมมือฟังพระอุปัชฌาบอกอนุศาสน์ไปจนจบ ครั้นเสร็จแล้ว พระอุปัชฌายะจะกล่าวคำอนุโมทนาว่า "ยถา สัพพี"  ไปจนจบเป็นอันเสร็จพิธี...